ปล่อยทอนซิลอักเสบไว้นาน อาจทำให้กลิ่นปากเรื้อรัง! 

ทอนซิลอักเสบอาจเป็นสาเหตุของกลิ่นปากเรื้อรังที่คุณไม่เคยรู้! เรียนรู้สาเหตุ ผลกระทบ และวิธีป้องกันปัญหานี้ เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีและลมหายใจสดชื่น!

รู้หรือไม่ว่าอาการ ทอนซิลอักเสบ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเจ็บคอทั่วไป แต่ยังอาจนำไปสู่ปัญหากลิ่นปากเรื้อรัง ที่หลายคนไม่คาดคิด! อาการนี้เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และถ้าปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่ยากแก้ไข วันนี้ Berry Dent ยาสีฟันสมุนไพรและยาสีฟันฟลูออไรด์ ในหลอดเดียว จะมาเจาะลึกสาเหตุของทอนซิลอักเสบ พร้อมผลกระทบและวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกัน 

ทอนซิลอักเสบคืออะไร? 

ทอนซิล คือต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณสองข้างของลำคอ ทำหน้าที่กรองเชื้อโรค ที่เข้าสู่ร่างกายทางปากและจมูก แต่เมื่อมีเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสสะสมมากเกินไป อาจทำให้ทอนซิลเกิดการอักเสบ โดยอาการของ ทอนซิลอักเสบที่พบได้บ่อย ได้แก่ เจ็บคอ, กลืนอาหารลำบาก, ไข้สูง, มีกลิ่นปาก บางรายอาจมีหนองหรือก้อนขาว ๆ ติดอยู่บนทอนซิล 


ทำไมทอนซิลอักเสบถึงทำให้เกิดกลิ่นปากเรื้อรัง? 

เมื่อทอนซิลอักเสบ จะเกิดก้อนสีขาว ๆ หรือที่เรียกว่า Tonsil Stones ซึ่งเป็นเศษอาหารหรือเซลล์ที่ตายแล้ว และแบคทีเรียที่สะสมในร่องของทอนซิล โดยก้อนเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นปากเรื้อรัง เพราะแบคทีเรียที่สะสม จะปล่อยสารเคมีที่มีกลิ่นแรงออกมา แม้จะแปรงฟันหรือใช้น้ำยาบ้วนปาก ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ 


ผลกระทบจากการปล่อยทอนซิลอักเสบนานเกินไป  

หลายคนคิดว่าทอนซิลอักเสบเป็นแค่อาการเจ็บคอ จึงปล่อยให้อาการอักเสบนานเกินไป ซึ่งความจริงแล้วมีผลกระทบมากกว่านั้น 

  • กลิ่นปากเรื้อรัง ส่งผลให้เสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน และเสียบุคลิกภาพที่ดี 
  • การติดเชื้อรุนแรง หากเชื้อโรคลุกลาม อาจส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ เช่น หู หรือโพรงจมูก 
  • จมูก 
  • ปัญหาระบบหายใจ ทอนซิลที่บวมอาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลง ทำให้หายใจไม่สะดวก 
  • สุขภาพช่องปากเสื่อมโทรม เพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาอื่น ๆ ในช่องปาก  

วิธีป้องกันและดูแลไม่ให้เกิดทอนซิลอักเสบ 

1. รักษาสุขภาพช่องปากให้สะอาด

การแปรงฟันวันละ 2 ครั้งร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันเป็นพื้นฐานสําคัญในการป้องกันทอนซิลอักเสบ การทําความสะอาดช่องปากอย่างสม่ําเสมอจะช่วยกําจัดเศษอาหารและแบคทีเรียที่อาจลุกลามไปยังต่อมทอนซิล ลดความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อ.


2. ดื่มน้ําให้เพียงพอ

การดื่มน้ําอย่างเพียงพอตลอดวันช่วยรักษาความชุ่มชื้นในลําคอ ทําให้เยื่อบุในช่องคอแข็งแรงและต้านทานเชื้อโรคได้ดีขึ้น น้ําจะช่วยชะล้างแบคทีเรียและสิ่งระคายเคืองต่างๆ ป้องกันการสะสมของเชื้อที่อาจก่อให้เกิดทอนซิลอักเสบ


3. หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ

อาหารประเภทมันและของทอดสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการอักเสบ เนื่องจากอาจทิ้งคราบไขมันที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและลําคอ ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และย่อยง่ายแทน


4. ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจํา

การพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนช่วยให้สามารถตรวจพบและป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากได้แต่เนิ่นๆ การตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ําเสมอยังช่วยให้ได้รับคําแนะนําในการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสม


5. รักษาอาการเจ็บคอเบื้องต้น

เมื่อมีอาการเจ็บคอ ควรรีบดูแลรักษาตั้งแต่เริ่มแรก การกลั้วคอด้วยน้ําเกลืออุ่นช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

ทอนซิลอักเสบ อาจดูเหมือนเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่ถ้าปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแล อาจนำไปสู่กลิ่นปากเรื้อรัง ที่ส่งผลต่อความมั่นใจและสุขภาพโดยรวม การป้องกันและดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสมแบบที่ Berry Dent นำมาบอกกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ทุกลมหายใจสดชื่นและห่างไกลจากปัญหาทอนซิลอักเสบ