7 สัญญาณเตือนโรคเหงือกอักเสบที่คุณไม่ควรมองข้าม 

เหงือกบวมแดง เลือดออกตอนแปรงฟัน หรือมีกลิ่นปาก? เช็กเลย! นี่คือสัญญาณของโรคเหงือกอักเสบที่อาจอันตรายกว่าที่คิด อ่านวิธีสังเกตอาการและดูแลเบื้องต้นได้ที่นี่

เคยไหม? แปรงฟันอยู่ดี ๆ ก็เห็นเลือดซึมออกมาตามไรฟัน หรือรู้สึกว่าเหงือกดูบวม ๆ แดง ๆ กว่าปกติ หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เดี๋ยวก็คงหายเอง แต่รู้หรือไม่ว่า นี่อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ “โรคเหงือกอักเสบ” ภัยเงียบในช่องปากที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม เพราะมักจะมาแบบเงียบๆ ไม่เจ็บปวดรุนแรงในระยะแรก 

การละเลย อาการเหงือกอักเสบ เล็ก ๆ น้อย ๆ ในวันนี้ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพช่องปากที่รุนแรงและซับซ้อนกว่าที่คิดในอนาคตได้ เช่น โรคปริทันต์อักเสบ ที่อาจทำให้สูญเสียฟันได้เลยทีเดียว Berry Dent ชวนมาลองเช็กลิสต์ว่า คุณกำลังมีสัญญาณเตือนเหล่านี้อยู่หรือเปล่า 

เช็กลิสต์! 7 สัญญาณเตือนของโรคเหงือกอักเสบ 

1. เลือดออกง่ายขณะแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน 

นี่คือสัญญาณคลาสสิกที่สุดและพบได้บ่อยที่สุด จำไว้ว่าเหงือกที่สุขภาพดี แข็งแรง จะไม่เลือดออกง่าย ๆ แค่เพราะการแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน หากพบเลือดออกทุกครั้งที่ทำความสะอาดช่องปาก นั่นเป็นสัญญาณว่าเหงือกของคุณกำลังอักเสบและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ 

2. เหงือกบวม แดง หรือมีสีคล้ำ 

ปกติแล้วเหงือกของเราจะมีสีชมพูอ่อนและดูเรียบกระชับ แต่เมื่อเกิดเหงือกอักเสบ เหงือกจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสดหรือแดงคล้ำ อาจดูบวมฉุและนิ่มกว่าปกติ ลองส่องกระจกดูสีเหงือกของคุณเทียบกับเมื่อก่อนดู 

3. มีกลิ่นปากตลอดเวลา 

กลิ่นปากที่ไม่ได้มาจากอาหารที่ทานเข้าไป แต่เป็นกลิ่นเหม็นที่คงอยู่ตลอดเวลา อาจเกิดจากแบคทีเรียที่สะสมอยู่ตามร่องเหงือก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคเหงือกอักเสบ แบคทีเรียเหล่านี้ จะปล่อยสารประกอบกำมะถันออกมา ทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ 

4. เหงือกร่น ทำให้ฟันดูยาวขึ้น 

เมื่อเหงือกอักเสบเป็นเวลานาน เนื้อเยื่อเหงือกอาจจะเริ่มร่นลงมาจากตัวฟัน ทำให้รู้สึกว่าฟันดูยาวขึ้นผิดปกติ และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของอาการเสียวฟันตามมา เพราะเนื้อฟันส่วนที่ไม่มีเคลือบฟันปกป้องถูกเปิดออก 

5. เจ็บหรือปวดบริเวณเหงือก 

แม้ในระยะแรกอาจไม่เจ็บ แต่เมื่อการอักเสบลุกลาม อาจรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ หรือปวดหนึบ ๆ บริเวณเหงือกได้ โดยเฉพาะเวลาเคี้ยวอาหารหรือเวลาแปรงฟันไปโดน 

6. มีหนองไหลออกมาจากร่องเหงือก 

หากคุณลองใช้นิ้วกดเบา ๆ บริเวณร่องเหงือก แล้วมีของเหลวสีขาวขุ่นคล้ายหนองไหลออกมา นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีการติดเชื้อเกิดขึ้น และเป็น อาการเหงือกอักเสบ ที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างรุนแรง ควรไปพบทันตแพทย์โดยด่วน 

7. ฟันโยก หรือการสบฟันเปลี่ยนไป 

นี่คือสัญญาณเตือนขั้นสุด! เมื่อเหงือกอักเสบถูกปล่อยทิ้งไว้ จนกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบ การอักเสบจะลุกลามไปทำลายกระดูกที่รองรับฟัน ทำให้ฟันเริ่มโยกคลอน หรือรู้สึกว่าการสบฟันไม่เหมือนเดิม ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายมาก 

ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อมีสัญญาณเหงือกอักเสบ? 

หากคุณพบว่าตัวเองมีอาการข้อใดข้อหนึ่ง ไม่ต้องตกใจ ในระยะเริ่มต้นเราสามารถดูแลและฟื้นฟูสุขภาพเหงือกให้กลับมาดีได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 

  • แปรงฟันให้ถูกวิธี ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม แปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที เน้นแปรงบริเวณรอยต่อระหว่างฟันกับขอบเหงือกอย่างเบามือ 
  • ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน การแปรงฟันอย่างเดียว ไม่สามารถกำจัดคราบพลัคที่ซอกฟันได้หมด การใช้ไหมขัดฟัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการกำจัดต้นตอของปัญหา เหงือกอักเสบ 
  • เลือกยาสีฟันที่ใช่ การเลือกยาสีฟันเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญ ในการต่อสู้กับปัญหาเหงือก 

การดูแลปัญหา เหงือกอักเสบ จำเป็นต้องใส่ใจเป็นพิเศษ การเลือกใช้ยาสีฟันที่ตอบโจทย์จึงสำคัญมาก ขอแนะนำ ยาสีฟันสมุนไพรไฮบริด Berry Dent ที่ผสานพลังของธรรมชาติและวิทยาศาสตร์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยสารสกัดจากเบอร์รี่ 5 ชนิดที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยดูแลเหงือกให้แข็งแรง พร้อมกับสมุนไพรธรรมชาติอื่น ๆ ที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และที่สำคัญคือมี ฟลูออไรด์ 1500 ppm ซึ่งเป็นปริมาณที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันฟันผุอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้สามารถดูแลทั้งปัญหาเหงือกและสุขภาพฟันได้ในหลอดเดียว