เคยสงสัยไหมว่าทั้งที่ก็ตั้งใจ แปรงฟัน อย่างดีทุกเช้า-เย็น แถมบางทีมีรอบกลางวันด้วย แต่ทำไมผ่านไปไม่นาน กลิ่นปาก เจ้าปัญหาก็ยังกลับมากวนใจอยู่เรื่อย ๆ? ความรู้สึกเหมือนแปรงฟันไม่สะอาดนี้ ทำให้เสียความมั่นใจไปไม่น้อยเลย เวลาจะคุยกับเพื่อนร่วมงาน หรือต้องพรีเซนต์งานสำคัญ ก็กังวลไปหมด
ปัญหานี้หลายคนก็เป็น การที่แปรงฟันแล้วยังมีกลิ่นปาก เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยมาก ๆ Berry Dent จะพาไปเปิดสาเหตุที่ซ่อนอยู่ ซึ่งการแปรงฟันอย่างเดียวอาจเอาไม่เพียงพอ พร้อมวิธีแก้ไขที่ถูกต้อง เพื่อเรียกคืนลมหายใจสดชื่นและความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง
5 สาเหตุหลักของกลิ่นปาก ที่การแปรงฟันอย่างเดียวเอาไม่อยู่
1. ฝ้าบนลิ้น แหล่งสะสมแบคทีเรียชั้นดี
ลองแลบลิ้นส่องกระจกดู ห็นคราบขาว ๆ หรือเหลือง ๆ บนลิ้นไหม? นั่นคือ “ฝ้าบนลิ้น” ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของเศษอาหาร เซลล์ที่ตายแล้ว และที่สำคัญคือแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก ดังนั้นต่อให้เราแปรงฟันสะอาดแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้ทำความสะอาดลิ้น ก็เหมือนปล่อยให้โรงงานผลิตกลิ่นเหม็นยังคงทำงานต่อไปในปากของเรานั่นเอง
2. หินปูนที่ซอกฟัน ศัตรูตัวร้ายที่มองไม่เห็น
คราบพลัคหรือคราบจุลินทรีย์นิ่ม ๆ ที่แปรงออกทุกวัน หากถูกปล่อยทิ้งไว้ตามซอกฟัน หรือขอบเหงือกนาน ๆ จะแข็งตัวกลายเป็น “หินปูน” ซึ่งแปรงสีฟันธรรมดาขจัดออกไม่ได้ เจ้าหินปูนนี่แหละคือบ้านชั้นดีของแบคทีเรีย ที่คอยปล่อยแก๊สซัลเฟอร์ (กลิ่นไข่เน่า) ออกมา เป็นสาเหตุของกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ และยังนำไปสู่ปัญหาเหงือกอักเสบได้อีกด้วย
3. ปากแห้ง น้ำลายน้อยกว่าที่คิด
น้ำลายไม่ใช่แค่น้ำในปาก แต่ยังมีหน้าที่ช่วยชะล้างเศษอาหารและควบคุมแบคทีเรีย เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเกิดภาวะปากแห้ง (Xerostomia) ไม่ว่าจะจากการดื่มน้ำน้อย เครียดจากการทำงาน พักผ่อนไม่พอ หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด แบคทีเรียในช่องปากจะเจริญเติบโตได้ดีเป็นพิเศษ ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่ายกว่าปกติมาก คนทำงานที่ดื่มกาแฟบ่อย ๆ ก็ยิ่งเสี่ยงต่อภาวะนี้ได้ง่ายขึ้น
4. การอดอาหารนาน ๆ
การอดอาหารนาน ๆ หรือการทานอาหารไม่เป็นเวลา ทำให้กระเพาะหลั่งกรดออกมา โดยไม่มีอาหารให้ย่อย ซึ่งไอกรดนี้ก็สามารถส่งกลิ่นขึ้นมาได้เช่นกัน ซึ่งเป็นกลิ่นที่การแปรงฟันหรือใช้น้ำยาบ้วนปากช่วยได้เพียงชั่วคราว เพราะต้นตอของกลิ่นมาจากภายในร่างกาย ไม่ใช่แค่แบคทีเรียในช่องปาก
5. ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ส่งผลถึงช่องปาก
บางครั้งสาเหตุของกลิ่นปาก ก็ไม่ได้มาจากในปากโดยตรง แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายส่วนอื่น เช่น
- นิ่วทอนซิล (Tonsil Stones) คือก้อนสีขาวเหลือง ที่เกิดจากเศษอาหารและแบคทีเรียสะสมในร่องของต่อมทอนซิล ทำให้มีกลิ่นเหม็นรุนแรงและรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ
- โรคกรดไหลย้อน (GERD) กรดในกระเพาะอาหาร ที่ไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร สามารถทำให้เกิดกลิ่นเปรี้ยวหรือกลิ่นเหม็นในปากได้
- โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไซนัสอักเสบ ก็ทำให้มีกลิ่นปากได้เช่นกัน
วิธีแก้กลิ่นปากให้ได้ผลจริง เพื่อลมหายใจสดชื่นตลอดวัน
เมื่อรู้สาเหตุแล้ว การแก้ไขก็ไม่ใช่เรื่องยาก นอกจากการแปรงฟันให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารตามซอกฟัน และทำความสะอาดลิ้นทุกครั้งแล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญคือการเลือกตัวช่วยที่เหมาะสม
เลือกยาสีฟันลดกลิ่นปากที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ
การเลือกยาสีฟันที่มีประสิทธิภาพ ในการลดการสะสมของแบคทีเรีย ถือเป็นทางออกที่ตรงจุดที่สุด ยาสีฟันสมุนไพร แก้ปากเหม็น เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะสมุนไพรหลายชนิด มีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรีย ลดการอักเสบของเหงือก และให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ
จบปัญหากลิ่นปากกวนใจด้วยตัวช่วยที่ใช่จาก Berry Dent
การจะแก้ปัญหา แปรงฟันแล้วยังมีกลิ่นปาก ให้ได้ผลอย่างยั่งยืน ต้องอาศัยการดูแลที่ครบวงจรและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ขอแนะนำ ยาสีฟันสมุนไพรไฮบริด Berry Dent ที่คิดค้นมาเพื่อคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพโดยเฉพาะ Berry Dent คือความลงตัวที่สมบูรณ์แบบระหว่าง พลังจากธรรมชาติ และ นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการผสานคุณค่าจาก สารสกัดเบอร์รี่เข้มข้นถึง 5 ชนิด (แครนเบอร์รี่, ราสป์เบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, แบล็คเบอร์รี่, สตรอว์เบอร์รี่) ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง ร่วมกับสมุนไพรธรรมชาติ อย่างกานพลูและใบฝรั่ง ที่มีชื่อเสียงด้านการลดแบคทีเรียและระงับกลิ่นปาก เสริมเกราะป้องกันด้วย ฟลูออไรด์ 1500 ppm ซึ่งเป็นปริมาณที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันฟันผุอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ให้คุณมั่นใจได้ว่า ทุกการแปรงฟันคือการดูแลช่องปากและฟันอย่างครบวงจร บอกลากลิ่นปากกวนใจ แล้วยิ้มรับลมหายใจหอมสดชื่นอย่างมั่นใจ ได้ตลอดวันกับ Berry Dent