8 ความเชื่อทำร้ายฟัน พร้อมวิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง จากทันตแพทย์

มั่นใจแค่ไหนว่าการแปรงฟันวันนี้ถูกต้อง? เช็กด่วน! 8 ความเชื่อผิด ๆ เรื่องการแปรงฟัน ที่อาจทำร้ายฟันคุณ พร้อมเผยวิธีแปรงฟันที่ถูกต้องจากทันตแพทย์

มั่นใจแค่ไหนว่าการแปรงฟันของเราทุกวันนี้ถูกต้อง? เราแปรงฟันกันทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง จนกลายเป็นความเคยชินที่ทำไปโดยอัตโนมัติ แต่รู้หรือไม่ว่าความเคยชินเหล่านั้น อาจแฝงไปด้วย ความเชื่อผิด ๆ เรื่องการแปรงฟัน ที่กำลังทำร้ายสุขภาพช่องปากโดยไม่รู้ตัว Berry Dent จะมาทลาย 8 ความเชื่อยอดฮิต พร้อมแนะนำวิธีแปรงฟันที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อให้แปรงฟันถูกวิธีอย่างแท้จริงง 

ความเชื่อที่ 1 ต้องแปรงฟันแรงๆ ถึงจะสะอาด 

นี่คือความเข้าใจผิดอันดับต้น ๆ หลายคนคิดว่าการออกแรงขัดถูแรง ๆ จะช่วยขจัดคราบได้ดีขึ้น 

  • ความจริง การแปรงฟันแรงเกินไปทำร้ายเหงือกและฟัน 

คราบพลัค (Plaque) ที่เกาะบนฟันนั้นมีความอ่อนนุ่ม สามารถขจัดออกได้ด้วยการแปรงเบา ๆ อย่างทั่วถึง การแปรงฟันแรงเกินไป ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยให้สะอาดขึ้น แต่ยังส่งผลเสียร้ายแรง ทำให้เหงือกร่น และฟันสึก บริเวณคอฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเสียวฟันตามมา 

  • วิธีที่ถูกต้อง ใช้แรงกดเบา ๆ เหมือนกำลังปัดฝุ่นออกจากผิวผลไม้ที่บอบบาง ใช้เทคนิคขยับสั้น ๆ และปัดขนแปรงออกจากขอบเหงือก 

ความเชื่อที่ 2 ควรแปรงฟันหลังกินข้าวทันที 

การรีบแปรงฟันทันทีหลังมื้ออาหาร เพื่อกำจัดเศษอาหารดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี 

  • ความจริง ควรรอ 30 นาที เพื่อปกป้องเคลือบฟัน 

หลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด (เช่น น้ำอัดลม ผลไม้รสเปรี้ยว) สภาพในช่องปากจะเป็นกรด ทำให้เคลือบฟัน (Enamel) อ่อนตัวลงชั่วคราว การแปรงฟันในทันทีจึงเหมือนการขัดถูเคลือบฟันที่อ่อนแอให้สึกกร่อนไป 

  • วิธีที่ถูกต้อง หลังรับประทานอาหาร ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่า เพื่อลดความเป็นกรด แล้วรออย่างน้อย 30-60 นาที เพื่อให้น้ำลายปรับสภาพช่องปากให้เป็นกลาง จากนั้นจึงค่อยแปรงฟัน 

ความเชื่อที่ 3 ต้องใช้ยาสีฟันเยอะๆ เต็มหน้าแปรง 

ภาพในโฆษณามักจะบีบยาสีฟันเป็นทางยาวสวยงาม ทำให้เราคิดว่าต้องใช้เยอะ ๆ ถึงจะดี 

  • ความจริง ใช้แค่ขนาดเท่า “เมล็ดถั่วเขียว” ก็พอ 

ปริมาณยาสีฟันที่มากเกินไป จะทำให้เกิดฟองฟอดเต็มปาก จนเรารู้สึกว่าสะอาดแล้ว และรีบบ้วนทิ้งก่อนเวลาอันควร ทำให้ฟลูออไรด์ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ 

  • วิธีที่ถูกต้อง สำหรับผู้ใหญ่ ใช้ยาสีฟันปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว ก็เพียงพอต่อการแปรงฟันให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพแล้ว 

ความเชื่อที่ 4 แปรงสีฟันขนแข็ง ทำความสะอาดได้ดีกว่า 

หลายคนชอบความรู้สึก “สะใจ” ของแปรงขนแข็ง คิดว่าขจัดคราบได้หมดจด 

  • ความจริง แปรงสีฟันขนอ่อนนุ่มดีที่สุด 

เช่นเดียวกับการแปรงฟันแรง แปรงขนแข็งทำร้ายเหงือกและเคลือบฟันได้ง่าย แปรงขนอ่อนหรือปานกลางสามารถซอกซอนทำความสะอาดร่องเหงือกและซอกฟันได้ดีกว่าและอ่อนโยนกว่ามาก 

  • วิธีที่ถูกต้อง ควรเลือกแปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม หรือไม่แข็งเกินไป จนทำร้ายเหงือกและเคลือบฟัน และควรแปรงฟันอย่างเบามือด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ก็จะสามารถทำความสะอาดอย่างหมดจด 

ความเชื่อที่ 5 แปรงฟันแล้วต้องบ้วนน้ำตามเยอะๆ 

เป็นความเคยชินที่ต้องบ้วนปาก จนกว่าฟองจะหมดไป 

  • ความจริง แค่บ้วนน้ำเล็กน้อย หรือถ่มฟองออกก็พอ 

การบ้วนน้ำเยอะๆ จะเป็นการชะล้าง “ฟลูออไรด์” ซึ่งเป็นสารสำคัญ ในการป้องกันฟันผุ ออกจากผิวฟันเร็วเกินไป 

  • วิธีที่ถูกต้อง หลังแปรงฟัน ให้บ้วนฟองยาสีฟันส่วนเกินออก หรือบ้วนน้ำเพียงเล็กน้อยแค่ครั้งเดียว เพื่อให้ฟลูออไรด์ยังคงเคลือบบนผิวฟัน และทำงานได้อย่างต่อเนื่อง 

ความเชื่อที่ 6 เลือดออกตามไรฟัน ควรหยุดแปรงบริเวณนั้น 

เมื่อเห็นเลือดออก หลายคนจะตกใจและหลีกเลี่ยงการแปรงฟันบริเวณนั้น เพราะกลัวเจ็บ 

  • ความจริง เลือดออกคือสัญญาณของเหงือกอักเสบ ยิ่งต้องแปรง 

เลือดออกขณะแปรงฟัน เป็นสัญญาณว่าบริเวณนั้น มีคราบพลัคสะสมจนเกิดการอักเสบ การหยุดแปรงจะยิ่งทำให้คราบสะสมมากขึ้นและอักเสบกว่าเดิม 

  • วิธีที่ถูกต้อง ให้ใช้แปรงขนนุ่ม แปรงบริเวณนั้นอย่างเบามือและนุ่มนวลกว่าปกติ เพื่อกำจัดคราบพลัคต้นเหตุออกไป อาการเลือดออกจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ 

ความเชื่อที่ 7 แปรงฟันอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว 

คิดว่าการแปรงฟันวันละ 2-3 ครั้ง ก็ดูแลได้ทั่วถึงแล้ว 

  • ความจริง การแปรงฟันทำความสะอาดได้แค่ 60% 

แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงซอกฟันที่ชิดกันได้ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฟันผุได้ง่ายที่สุด 

  • วิธีที่ถูกต้อง ต้องใช้ไหมขัดฟัน (Dental Floss) หรือแปรงซอกฟันร่วมด้วยทุกวัน เพื่อกำจัดคราบพลัคและเศษอาหารระหว่างซี่ฟัน 

ความเชื่อที่ 8 เปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อขนแปรงบานเท่านั้น 

ใช้แปรงสีฟันด้ามเดิมไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดสภาพ 

  • ความจริง ควรเปลี่ยนแปรงทุก 3-4 เดือน 

ขนแปรงที่เริ่มเสื่อมสภาพ (แม้จะยังไม่บาน) จะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดลดลง และยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย 

  • วิธีที่ถูกต้อง เปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุก 3-4 เดือน หรือทันทีหลังจากหายป่วยจากการติดเชื้อ เช่น ไข้หวัด 

การทลายความเชื่อผิด ๆ เรื่องการแปรงฟัน และหันมาใส่ใจวิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพช่องปาก และหัวใจของการแปรงฟันถูกวิธี ก็คือการเลือกใช้เครื่องมือที่ใช่ โดยเฉพาะยาสีฟันที่ช่วยดูแลครบทุกมิติ ขอแนะนำ Berry Dent ยาสีฟันสมุนไพรไฮบริด ที่ผสานพลังของวิทยาศาสตร์และธรรมชาติอย่างลงตัว ด้วยฟลูออไรด์ 1500 ppm ช่วยป้องกันฟันผุได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมสารสกัดจากเบอร์รี่ 5 ชนิด และสมุนไพรธรรมชาติ ที่ช่วยดูแลเหงือกให้แข็งแรง ลดการสะสมของแบคทีเรีย เพื่อให้ทุกการแปรงฟันของคุณ เป็นการดูแลที่ถูกต้องและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด