แก้ร้อนในที่ต้นเหตุ! คุณกำลังแพ้ยาสีฟันโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า 

เจอปัญหาแผลร้อนในซ้ำ ๆ ไม่หายสักที? สาเหตุอาจมาจากยาสีฟันที่คุณใช้! มาดูว่าสาร SLS เกี่ยวข้องอย่างไร และวิธีเลือกยาสีฟันสำหรับคนเป็นร้อนในบ่อย

แผลร้อนใน เม็ดเล็ก ๆ ในปาก แต่สร้างความรำคาญได้ไม่เล็กเลยใช่ไหม? โดยเฉพาะคนที่เป็นร้อนในบ่อยจนท้อใจ หลายคนอาจคิดว่าเกิดจากความเครียดหรือพักผ่อนน้อย แต่เคยสงสัยไหมว่าต้นเหตุอาจอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด นั่นคือยาสีฟันที่ใช้ทุกวัน Berry Dent จะมาไขข้อข้องใจว่าอาการแพ้ยาสีฟันมีจริงหรือไม่ และเกี่ยวข้องกับการเกิดแผลร้อนในได้อย่างไร 

ยาสีฟันเป็นต้นเหตุของแผลร้อนในจริงหรือ? 

คำถามที่ว่า ยาสีฟันทำให้เป็นร้อนในจริงไหม คำตอบคือ “เป็นไปได้สูงมาก” โดยเฉพาะในคนที่มีเยื่อบุช่องปากบอบบางและแพ้ง่าย แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ไม่ใช่ยาสีฟันทุกหลอดที่เป็นผู้ร้าย แต่เป็น “ส่วนผสม” บางตัวที่ซ่อนอยู่ในนั้นต่างหาก ที่อาจกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองและนำไปสู่การเกิดแผลร้อนในได้ 

  • รู้จัก SLS (Sodium Lauryl Sulfate) ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง  หากจะหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ยาสีฟัน คงต้องเพ่งเล็งไปที่สารเคมีตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า SLS ซึ่งเป็นส่วนผสมที่พบได้ในยาสีฟันส่วนใหญ่ตามท้องตลาด 
  • SLS คืออะไร ทำไมถึงอยู่ในยาสีฟัน? SLS คือ “สารก่อฟอง” (Foaming Agent) หน้าที่หลักคือการสร้างฟองฟูฟ่องขณะที่เราแปรงฟัน ซึ่งให้ความรู้สึกว่า “สะอาด” และช่วยให้เนื้อยาสีฟันกระจายตัวไปทั่วช่องปากได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ บริษัทส่วนใหญ่จึงนิยมใส่ SLS ลงไปในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ ไม่ใช่แค่ยาสีฟัน แต่รวมถึงสบู่และแชมพูด้วย 

SLS ทำให้เกิดการระคายเคืองและร้อนในได้อย่างไร? 

งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า SLS มีคุณสมบัติในการชะล้างที่รุนแรง สามารถทำลายชั้นเมือก (Mucin Layer) ที่เคลือบปกป้องเยื่อบุช่องปากของเราได้ เมื่อเกราะป้องกันตามธรรมชาตินี้ถูกทำลาย เนื้อเยื่อที่บอบบางข้างใต้ จะถูกเปิดเผยและเสี่ยงต่อการระคายเคือง จากกรดในอาหารหรือการเสียดสีได้ง่ายขึ้น ผลลัพธ์ก็คือแผลร้อนในที่ผุดขึ้นมา สร้างความเจ็บปวดซ้ำ ๆ นั่นเอง 

เช็กลิสต์ นี่คืออาการแพ้ยาสีฟันหรือไม่? 

ลองสังเกตตัวเองดูว่า มีอาการเหล่านี้หลังแปรงฟัน หรือหลังจากเปลี่ยนยาสีฟันหลอดใหม่หรือไม่ 

  1. เป็นร้อนในบ่อย หรือเป็นแผลในปากซ้ำ ๆ ในตำแหน่งเดิม ๆ 
  2. รู้สึกแสบหรือระคายเคืองในช่องปากหลังแปรงฟัน
  3. มีอาการปากแห้งผิดปกติ หรือมุมปากลอกเป็นขุย 
  4. ผิวหนังรอบริมฝีปากแดงหรืออักเสบ 

หากคุณมีอาการเหล่านี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า คุณอาจจะไวต่อสาร SLS หรือส่วนผสมอื่น ๆ ในยาสีฟัน 

วิธีเลือกยาสีฟันสำหรับคนเป็นร้อนในบ่อย 

การเปลี่ยนยาสีฟันอาจเป็นทางออกที่ง่ายและตรงจุดที่สุด ดังนั้นนี่คือสิ่งที่ควรมองหาในยาสีฟัน 

  • มองหาคำว่า “SLS-Free” หรือ “ไม่มีสารก่อฟอง” วิธีที่ง่ายที่สุดคือการพลิกดูฉลากข้างกล่อง มองหายาสีฟันที่ระบุชัดเจนว่า “SLS-Free” หรือ “ปราศจากสารก่อฟอง” ซึ่งถูกออกแบบมา เพื่อคนที่มีอาการแพ้ง่ายโดยเฉพาะ 
  • เลือกยาสีฟันสูตรอ่อนโยนหรือยาสีฟันสมุนไพร ยาสีฟันสูตรอ่อนโยน (Gentle Formula) หรือยาสีฟันสมุนไพร มักจะหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่รุนแรง และใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยปลอบประโลมเยื่อบุในช่องปากแทน 

สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้คุณเป็นร้อนในได้เช่นกัน 

แน่นอนว่าแพ้ยาสีฟัน ไม่ใช่สาเหตุเดียวของการเกิดร้อนใน ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, การขาดวิตามินบางชนิด (เช่น B12, สังกะสี, ธาตุเหล็ก), การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือแม้แต่การเผลอกัดปากตัวเอง ก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน 

การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่อ่อนโยน และเข้าใจปัญหา จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับใครที่กำลังมองหายาสีฟัน ที่ช่วยดูแลสุขภาพช่องปากอย่างครอบคลุม แต่ยังคงความอ่อนโยน ขอแนะนำ ยาสีฟันสมุนไพรไฮบริด Berry Dent ที่ผสานส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ ผ่านการวิจัยและคิดค้นนานกว่า 10 ปี จนได้สูตรเฉพาะจากสารสกัดสมุนไพรธรรมชาติและเบอร์รี่ 5 ชนิด ควบคู่ไปกับฟลูออไรด์ 1500 ppm เพื่อการปกป้องฟันผุอย่างเต็มประสิทธิภาพ Berry Dent จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่ต้องการคุณค่าจากธรรมชาติและนวัตกรรม ที่ช่วยดูแลช่องปากอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง