สายกาแฟตัวจริง ต้องเคยเจอปัญหา คราบพลัค บนฟันแน่ ๆ เพราะแม้ว่ากาแฟอาจจะทำให้รู้สึกสดชื่น แต่ก็เป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้สุขภาพช่องปากมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นคราบพลัค ฟันเหลือง หรือกลิ่นปาก แถมยังทำให้บางคนขาดความมั่นใจเวลายิ้มอีกด้วย ถ้าเป็นคนที่รักการดื่มกาแฟ แต่ก็อยากดูแลฟันให้สวยสะอาด Berry Dent มีวิธีดี ๆ มาแชร์กัน
คราบพลัคจากกาแฟคืออะไร?
คราบพลัค (Plaque) เป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ ที่เกิดจากแบคทีเรียสะสมบริเวณผิวฟันและเหงือก เมื่อดื่มกาแฟเป็นประจำ น้ำตาลและสารในกาแฟ จะไปกระตุ้นการสะสมของคราบพลัคให้มากขึ้น ยิ่งถ้าเป็นกาแฟดำเข้ม ๆ หรือกาแฟใส่น้ำตาล ยิ่งส่งผลให้คราบพลัคเกาะแน่น และยังทำให้ฟันมีสีคล้ำและเหลืองอีกด้วย
ผลกระทบของคราบพลัคจากกาแฟต่อสุขภาพช่องปาก
การดื่มกาแฟเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจําวันของคนจํานวนมาก แม้จะมีประโยชน์หลายด้าน แต่การดื่มกาแฟเป็นประจําโดยขาดการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี อาจก่อให้เกิดปัญหาคราบพลัคสะสม ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพฟันและเหงือกได้หลายประการ ดังนี้
- ฟันเหลือง สารแทนนิน (Tannins) ในกาแฟเป็นสารประกอบที่ทําให้เกิดคราบสีบนผิวฟัน โดยจะเกาะติดกับเคลือบฟันและสะสมเป็นคราบสีน้ําตาลหรือเหลืองที่ล้างออกยาก การสะสมของคราบสีเหล่านี้จะเพิ่มมากขึ้นตามความถี่ของการดื่มกาแฟ
- ฟันผุ คราบพลัคที่เกิดจากกาแฟจะกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก เมื่อแบคทีเรียเหล่านี้ย่อยสลายน้ําตาลจะผลิตกรดที่ทําลายเคลือบฟัน หากปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่ทําความสะอาด จะนําไปสู่การเกิดฟันผุได้
- กลิ่นปาก กาแฟมีฤทธิ์ทําให้ปากแห้ง ลดการผลิตน้ําลาย เมื่อรวมกับคราบพลัคที่เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย จะยิ่งทําให้เกิดกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ เนื่องจากน้ําลายที่มีน้อยลงไม่สามารถชะล้างแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เหงือกอักเสบ คราบพลัคที่สะสมบริเวณขอบเหงือกและซอกฟัน หากไม่ได้รับการทําความสะอาดอย่างถูกวิธี จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเหงือก ทําให้เหงือกบวมแดง มีเลือดออกง่าย และอาจพัฒนาเป็นโรคปริทันต์ในระยะยาว.
วิธีดูแลฟันสำหรับสายกาแฟให้ห่างไกลคราบพลัค
สําหรับคนรักกาแฟ การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสําคัญที่ไม่ควรมองข้าม การป้องกันการเกิดคราบพลัคสามารถทําได้ง่ายๆ ด้วยการปฏิบัติตามคําแนะนําพื้นฐานต่อไปนี้
1. แปรงฟันหลังดื่มกาแฟทันที
หลังดื่มกาแฟ ควรแปรงฟันภายใน 30 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้คราบกาแฟติดฟัน แต่ถ้าไม่มีโอกาสแปรงฟันทันที การบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดก็ช่วยได้
2. ใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดคราบพลัค
เลือกยาสีฟันที่มีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบพลัคและป้องกันฟันเหลือง โดยควรเป็นยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์จะช่วยปกป้องฟันจากการผุ และถ้ามีค่าฟลูออไรด์สูง 1500 ppm ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพในการลดคราบพลัคและป้องกันฟันพุได้ดี
3. ดื่มน้ำตามหลังดื่มกาแฟ
การดื่มน้ําสะอาดทันทีหลังดื่มกาแฟเป็นวิธีที่ง่ายแต่มีประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพช่องปาก น้ําจะช่วยชะล้างคราบกาแฟและกรดที่ตกค้าง ลดความเสี่ยงในการเกิดคราบสีบนฟัน นอกจากนี้ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นในช่องปาก ป้องกันภาวะปากแห้งที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากและการเพิ่มจํานวนของแบคทีเรีย
4. ใช้หลอดดูด
สําหรับการดื่มกาแฟเย็น การใช้หลอดดูดเป็นเทคนิคที่ช่วยลดการสัมผัสโดยตรงระหว่างกาแฟกับผิวฟัน ทําให้ลดโอกาสการเกิดคราบสีและการกัดกร่อนของเคลือบฟัน โดยหลอดจะช่วยนํากาแฟผ่านฟันไปด้านหลังโดยตรง ทําให้สามารถดื่มกาแฟได้อย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดคราบสีมากนัก
5. พบทันตแพทย์เป็นประจำ
การขูดหินปูนและทำความสะอาดฟันกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือน จะช่วยลดการสะสมของคราบพลัคและป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากได้
คราบพลัค จากกาแฟอาจทำให้ขาดความมั่นใจ และเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพช่องปาก แต่การดูแลฟันอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะการเลือกใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดคราบพลัค อย่าง Berry Dent ที่มีฟลูออไรด์มากถึง 1500 ppm รวมถึงมีส่วนผสมของเบอร์รี่ที่ช่วยลดกลิ่นปาก ให้ลมหายใจหอมสดชื่นยาวนาน และการพบทันตแพทย์เป็นประจำ จะช่วยให้หมดกังวลเกี่ยวกับคราบพลัคและสุขภาพช่องปากโดยรวมได้