การแปรงฟัน เป็นกิจวัตรประจำวันที่สำคัญ เพราะเป็นด่านแรกในการดูแล สุขภาพช่องปาก แต่เคยสงสัยไหมว่า ปริมาณยาสีฟัน ที่เราบีบลงบนแปรงในแต่ละครั้งนั้นควรมีปริมาณเท่าไร?
คำแนะนำที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ คือ “ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว” แต่ปริมาณนี้เหมาะสมสำหรับทุกคนจริงหรือ? และการใช้ปริมาณยาสีฟันที่ถูกต้องส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาดอย่างไร? ในบทความนี้ Berry Dent จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับปริมาณยาสีฟันที่เหมาะสม เพื่อให้คุณดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทำไมปริมาณยาสีฟันจึงมีความสำคัญ?
หลายคนอาจคิดว่าการใช้ยาสีฟันในปริมาณมาก ๆ จะช่วยให้ฟันสะอาดยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การใช้ยาสีฟันในปริมาณที่มากเกินไปไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเสมอไป และอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ได้ เช่น:
- การสิ้นเปลือง การบีบยาสีฟันเยอะเกินความจำเป็น ทำให้ยาสีฟันหมดเร็วกว่าที่ควร
- การกลืนฟลูออไรด์มากเกินไป (โดยเฉพาะในเด็ก) หากเด็กเล็กกลืนยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ในปริมาณมากเกินไปเป็นประจำ อาจเสี่ยงต่อภาวะฟันตกกระ (Dental Fluorosis) ซึ่งทำให้เกิดจุดหรือแถบสีขาวขุ่นบนผิวฟัน
- ฟองมากเกินไป ยาสีฟันที่มีฟองมากเกินไป อาจทำให้รู้สึกอยากบ้วนปากเร็วขึ้น ส่งผลให้ระยะเวลาในการแปรงฟันสั้นลง และอาจแปรงฟันได้ไม่ทั่วถึง
- อาจระคายเคืองช่องปาก ในบางคน ส่วนผสมบางอย่างในยาสีฟัน เมื่อสัมผัสกับช่องปากในปริมาณมากและนานเกินไป อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
ในทางกลับกัน การใช้ยาสีฟันในปริมาณที่น้อยเกินไป ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดลดลง เนื่องจากสารสำคัญในยาสีฟัน เช่น ฟลูออไรด์ สารขัดฟัน หรือสารที่ช่วยลดคราบพลัค อาจมีปริมาณไม่เพียงพอที่จะทำงานได้อย่างเต็มที่
คำแนะนำปริมาณยาสีฟันที่เหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงวัย
เพื่อให้การแปรงฟันมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ปริมาณยาสีฟันที่แนะนำจะแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ ดังนี้
เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
- ปริมาณ แนะนำให้ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ (ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หากมีความเสี่ยงฟันผุสูง อาจเริ่มที่ 500 ppm) ในปริมาณเพียง “แตะขนแปรง” หรือ “เท่าเมล็ดข้าวสาร”
- เหตุผล เด็กในวัยนี้ยังไม่สามารถควบคุมการกลืนได้ดี การใช้ปริมาณน้อยจะช่วยลดความเสี่ยงในการกลืนฟลูออไรด์ส่วนเกิน คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นผู้แปรงฟันให้ หรือดูแลอย่างใกล้ชิด
เด็กอายุ 3-6 ปี
- ปริมาณ แนะนำให้ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ (ประมาณ 1000 ppm) ในปริมาณ “เท่าเมล็ดถั่วเขียว”
- เหตุผล เด็กในวัยนี้เริ่มเรียนรู้การบ้วนปากได้ดีขึ้น แต่ยังคงต้องการการดูแลจากผู้ปกครองในการแปรงฟันและควบคุมปริมาณยาสีฟัน
เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป และผู้ใหญ่
- ปริมาณ แนะนำให้ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ (1000-1500 ppm) ในปริมาณ “เท่าความยาวของหน้าตัดขนแปรงสีฟัน” หรือประมาณ “1 เซนติเมตร” ซึ่งมักจะใกล้เคียงกับขนาดเท่าเมล็ดถั่วที่เราคุ้นเคย
- เหตุผล เป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับสารออกฤทธิ์ในยาสีฟันจะกระจายตัวทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
“ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว” ข้อเท็จจริงที่ควรรู้!
คำแนะนำ “ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว” นั้นเป็นแนวทางที่เข้าใจง่ายและใช้ได้ผลดีสำหรับผู้ใหญ่และเด็กโต แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า “เมล็ดถั่ว” ที่กล่าวถึงนั้นคือ เมล็ดถั่วเขียว ไม่ใช่เมล็ดถั่วลิสงหรือถั่วขนาดใหญ่อื่น ๆ และปริมาณนี้ก็อาจยืดหยุ่นได้เล็กน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของแปรงสีฟันแต่ละบุคคล
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการแปรงฟัน
นอกเหนือจากปริมาณยาสีฟันแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่มีความสำคัญไม่แพ้กันในการทำให้การแปรงฟันมีประสิทธิภาพ ได้แก่
- เทคนิคการแปรงฟัน การแปรงฟันอย่างถูกวิธี ครอบคลุมทุกพื้นผิวของฟันและบริเวณขอบเหงือก
- ระยะเวลาในการแปรงฟัน ควรแปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาทีต่อครั้ง
- ความถี่ในการแปรงฟัน แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน หรือหลังมื้ออาหาร
- การเลือกแปรงสีฟัน เลือกแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม ปลายมน และขนาดหัวแปรงเหมาะสมกับช่องปาก
- การใช้ไหมขัดฟัน เพื่อทำความสะอาดบริเวณซอกฟันที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง
การใช้ปริมาณยาสีฟันที่เหมาะสมตามช่วงวัย ร่วมกับ การแปรงฟันอย่างถูกวิธี และสม่ำเสมอ คือหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพช่องปากที่ดี แม้ว่าคำแนะนำ “ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว” จะเป็นที่รู้จักกันดี แต่การทำความเข้าใจถึงปริมาณที่แท้จริงและเหมาะสมสำหรับแต่ละคนจะช่วยให้การใช้งานยาสีฟันเกิดประสิทธิภาพสูงสุด Berry Dent สนับสนุนให้ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เพราะการดูแลช่องปากที่ถูกต้องเริ่มต้นได้จากสิ่งใกล้ตัว เพื่อรอยยิ้มที่แข็งแรงและมั่นใจในทุก ๆ วัน