เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรั[ สุขภาพช่องปาก แล้ว อาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้น อาจเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพช่องปาก ที่กำลังบอกว่ามีปัญหาใหญ่ซ่อนอยู่ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการเลือดออกตามไรฟัน เสียวฟันจี๊ด ๆ หรือรู้สึกปากแห้งผิดปกติ อาการเหล่านี้ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด!
เพราะปัญหาสุขภาพช่องปาก ผู้สูงอายุ ไม่ได้จบแค่ในปาก แต่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมและการใช้ชีวิตประจำวันได้ Berry Dent ชวนมาลองเช็กลิสต์ 10 สัญญาณเตือนนี้ไปพร้อมๆ กัน เพื่อจะได้ดูแลและป้องกันได้ทันท่วงที
1. เลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟัน
นี่คือสัญญาณแรก ๆ ที่พบได้บ่อยที่สุด อย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติ! การมีเลือดออกแม้เพียงเล็กน้อย เป็นสัญญาณของโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งเกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์ หากปล่อยทิ้งไว้อาจลุกลามเป็นโรคปริทันต์ที่ทำลายกระดูกรองรับฟันได้
2. อาการเสียวฟันจี๊ดๆ เมื่อทานของร้อนหรือเย็น
รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ฟัน เมื่อทานไอศกรีมหรือดื่มกาแฟร้อน ๆ ใช่ไหม? อาการนี้เป็นสัญญาณว่า เคลือบฟันบางลง หรืออาจเกิดจาก เหงือกร่น จนส่วนของเนื้อฟันที่ไม่มีอะไรปกป้องโผล่ออกมา ทำให้ไวต่อการกระตุ้นจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง
3. ภาวะปากแห้ง น้ำลายน้อยผิดปกติ
รู้สึกคอแห้ง ปากเหนียว หรือดื่มน้ำบ่อยกว่าปกติไหม? ภาวะ ปากแห้ง น้ำลายน้อย ในผู้สูงอายุเป็นเรื่องน่ากังวล เพราะน้ำลายคือเกราะป้องกันฟันตามธรรมชาติ เมื่อน้ำลายน้อยลง ความเสี่ยงในการเกิดฟันผุและแผลในช่องปากก็จะสูงขึ้นมาก
4. มีกลิ่นปาก แม้จะแปรงฟันแล้ว
หากแปรงฟันอย่างดีแล้ว แต่ยังมีกลิ่นปากไม่พึงประสงค์ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ซ่อนอยู่ เช่น มีฟันผุซี่ใหญ่, เป็นโรคเหงือก, มีเศษอาหารติดแน่นตามซอกฟัน หรืออาจเป็นสัญญาณจากโรคทางระบบอื่น ๆ ในร่างกาย
5. ฟันโยกคลอน
ฟันที่แข็งแรงไม่ควรจะโยกได้ หากรู้สึกว่าฟันเริ่มขยับหรือโยกคลอน นี่เป็นสัญญาณอันตราย ที่บ่งบอกว่ากระดูกรอบรากฟัน อาจถูกทำลายไปมาก จากโรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งจำเป็นต้องรีบไปพบทันตแพทย์โดยด่วน
6. เหงือกร่น สีเหงือกเปลี่ยนไป
ลองสังเกตในกระจก หากเห็นว่าเหงือกร่นลงจนฟันดูยาวขึ้น หรือสีของเหงือกเปลี่ยน จากสีชมพูเป็นสีแดงคล้ำหรือบวม นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของโรคเหงือกที่ไม่ควรมองข้าม
7. พบจุดดำหรือรูบนตัวฟัน (ฟันผุ)
สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของฟันผุ คือการเห็นจุดสีน้ำตาลหรือสีดำบนตัวฟัน หรือบางครั้งอาจคลำแล้วรู้สึกว่าเป็นรู หากปล่อยทิ้งไว้ เชื้อโรคจะลุกลามเข้าสู่โพรงประสาทฟัน ทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงได้
8. เป็นแผลในปากบ่อยและหายช้า
การเกิดแผลร้อนในเป็นครั้งคราวอาจเป็นเรื่องปกติ แต่หากเป็นแผลบ่อย ๆ หรือเป็นแผลเรื้อรังที่ไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะที่ร้ายแรงกว่านั้นได้
9. เคี้ยวอาหารลำบาก รู้สึกเจ็บ
การเคี้ยวอาหารแล้วรู้สึกเจ็บ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฟันผุ, ฟันร้าว, โรคเหงือก หรือปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อขากรรไกร ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
10. ฟันปลอมหลวมหรือไม่พอดี
สำหรับผู้ที่ใส่ฟันปลอม หากรู้สึกว่าฟันปลอมเริ่มหลวม, กระดก, หรือกดทับเหงือกจนเจ็บ อาจเป็นเพราะสันเหงือกและกระดูกมีการเปลี่ยนแปลงไป ควรนำกลับไปให้ทันตแพทย์ปรับแก้ เพราะฟันปลอมที่ไม่พอดีจะทำให้เคี้ยวอาหารลำบากและเกิดแผลในปากได้
วิธีดูแลและป้องกันเบื้องต้น
การดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุให้ดีอยู่เสมอ คือหัวใจสำคัญของการป้องกันปัญหาเหล่านี้ การแปรงฟันให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง, การใช้ไหมขัดฟัน, และการไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
นอกจากนี้ การเลือกใช้ ยาสีฟันดูแลเหงือกและฟัน ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนอย่าง ยาสีฟันสมุนไพรไฮบริด Berry Dent ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดูแลเบื้องต้น ที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ เพราะ Berry Dent ได้รวมพลังของสมุนไพร ที่ช่วยลดการอักเสบของเหงือกและลดกลิ่นปาก เข้ากับฟลูออไรด์ 1500 ppm ที่ช่วยป้องกันฟันผุและลดอาการเสียวฟันได้อย่างดีเยี่ยม จึงช่วยจัดการสัญญาณเตือนต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมในหลอดเดียว