กลิ่นปากเกิดจากอะไร? 5 สาเหตุที่อาจคาดไม่ถึง

กังวลเรื่องกลิ่นปาก? แปรงฟันแล้วก็ยังไม่หาย? 5 สาเหตุปากเหม็นที่คาดไม่ถึง ตั้งแต่นิ่วทอนซิลถึงกรดไหลย้อน พร้อมวิธีแก้ไขเพื่อลมหายใจที่สดชื่นและความมั่นใจของคุณ!

กลิ่นปาก เป็นปัญหาที่ทำลายความมั่นใจและทำให้เสียบุคลิกได้มากกว่าที่คิด หลายคนพยายามแปรงฟันอย่างดี ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน แต่ก็ยังเจอปัญหาปากเหม็นกวนใจอยู่เสมอ ทำให้เกิดคำถามว่า “แปรงฟันแล้วยังมีกลิ่นปาก เกิดจากอะไรกันแน่? นั่นเพราะสาเหตุของกลิ่นปากไม่ได้มาจากความสะอาดในช่องปากเพียงอย่างเดียว Berry Dent พาไปสำรวจ 5 สาเหตุกลิ่นปากที่คาดไม่ถึง ซึ่งอาจเป็นต้นตอของปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่ 

5 สาเหตุไม่คาดคิดที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก 

1. นิ่วทอนซิล (Tonsil Stones) ก้อนเล็กๆ ที่ส่งกลิ่นเหม็น 

เคยรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอหรือมีกลิ่นแปลก ๆ โชยออกมาจากลำคอไหม? อาจมี “นิ่วทอนซิล” ซ่อนอยู่ นิ่วทอนซิลคือ ก้อนสีขาวหรือเหลือง ที่เกิดจากการสะสมของเศษอาหาร แบคทีเรีย และเซลล์ที่ตายแล้ว ในร่องลึกของต่อมทอนซิล แม้ก้อนจะเล็ก แต่ก็สามารถสร้างกลิ่นปากที่รุนแรงมากได้ และเป็นหนึ่งในสาเหตุยอดฮิต ที่ทำให้คนสงสัยว่าทำไมดูแลฟันดีแล้วแต่ยังปากเหม็น 

2. ภาวะไซนัสอักเสบเรื้อรัง 

เมื่อโพรงไซนัสเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ จะมีการผลิตเมือกหรือน้ำมูกข้นเหนียวออกมา ซึ่งอาจไหลย้อนลงไปที่ด้านหลังลำคอ (Post-nasal Drip) น้ำมูกเหล่านี้ กลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้เกิดการย่อยสลายและปล่อยแก๊สที่มีกลิ่นเหม็นออกมา กลายเป็นสาเหตุกลิ่นปากเรื้อรังที่แก้ไม่หายสักที 

3. โรคกรดไหลย้อน (GERD) 

สำหรับคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน หูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างอาจทำงานผิดปกติ ทำให้กรดและเศษอาหาร ที่ยังไม่ย่อยจากกระเพาะอาหารตีกลับขึ้นมา ที่หลอดอาหารและลำคอได้ กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากกรดในกระเพาะนี่เอง ที่ปะปนออกมากับลมหายใจ ทำให้เกิดกลิ่นปากจากภายใน ที่การแปรงฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถช่วยได้ 

4. การดื่มน้ำไม่เพียงพอและภาวะปากแห้ง 

น้ำลายคือฮีโร่ตามธรรมชาติ ที่ช่วยชะล้างเศษอาหารและควบคุมแบคทีเรียในช่องปาก เมื่อดื่มน้ำน้อยหรือมีภาวะปากแห้ง (จากยาบางชนิด การหายใจทางปาก หรืออายุที่มากขึ้น) การผลิตน้ำลายจะลดลง ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และสร้างสารประกอบกำมะถัน ที่ทำให้เกิดลมหายใจเหม็น นี่คือสาเหตุกลิ่นปากง่าย ๆ ที่หลายคนมองข้ามไป 

5. โรคประจำตัวบางชนิด 

บางครั้งกลิ่นปากอาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่า มีปัญหาสุขภาพซ่อนอยู่ เช่น 

  • โรคเบาหวาน อาจทำให้มีกลิ่นลมหายใจคล้ายผลไม้หรือกลิ่นอะซิโตน 
  • โรคตับหรือโรคไตวาย อาจทำให้มีกลิ่นคล้ายแอมโมเนียหรือกลิ่นคาวปลา 

หากคุณมีกลิ่นปากลักษณะเฉพาะเหล่านี้ร่วมกับอาการอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย 

 วิธีแก้กลิ่นปากและป้องกันเบื้องต้น 

เราสามารถป้องกันและแก้กลิ่นปากไม่พึงประสงค์ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้  

  • ดูแลสุขภาพช่องปากให้ครบถ้วน แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง, ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน และที่สำคัญคือ “แปรงลิ้น” เพราะเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียขนาดใหญ่ 
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ จิบน้ำบ่อย ๆ ตลอดวันเพื่อป้องกันภาวะปากแห้งและช่วยชะล้างช่องปาก 
  • กลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ อาจช่วยให้นิ่วทอนซิลหลุดออกมาและลดแบคทีเรียในลำคอได้ 
  • ปรับพฤติกรรมการกิน ลดอาหารกลิ่นแรง หลีกเลี่ยงการกินมื้อหนักก่อนนอน เพื่อลดความเสี่ยงกรดไหลย้อน 
  • ตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ การขูดหินปูนทุก 6 เดือน ช่วยกำจัดคราบแบคทีเรีย ที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง 

เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์เรื่องกลิ่นปาก?  

หากดูแลความสะอาดช่องปากอย่างเต็มที่แล้ว แต่ปัญหากลิ่นปากยังคงอยู่ไม่หาย หรือสงสัยว่าอาจมีสาเหตุมาจากโรคอื่น ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ควรไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุในช่องปากก่อน หากไม่พบความผิดปกติ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น แพทย์หู คอ จมูก หรืออายุรแพทย์ต่อไป 

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่เหมาะสมก็เป็นหัวใจสำคัญ ในการต่อสู้กับปัญหากลิ่นปาก หากกำลังมองหาผู้ช่วยที่เข้าใจปัญหาสุขภาพช่องปากและกลิ่นปากอย่างลึกซึ้ง ลองพิจารณา ยาสีฟันสมุนไพรไฮบริด  Berry Dent ที่ผสานส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ ด้วยการวิจัยและคิดค้นนานกว่า 10 ปี จนได้สูตรเฉพาะจากสารสกัดสมุนไพรธรรมชาติ, เบอร์รี่ 5 ชนิด และฟลูออไรด์ 1500 ppm ที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ลดการอักเสบ และดูแลปกป้องสุขภาพช่องปากและฟันได้อย่างครบวงจร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคุณค่าจากธรรมชาติ ควบคู่ไปกับนวัตกรรมที่พิสูจน์แล้ว เพื่อการดูแลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เรียกคืนลมหายใจที่สดชื่นและความมั่นใจกลับคืนมา